ลดภูมิแพ้ ลดน้ำหนัก ลดอาการนอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ขาดสารอาหาร โรคกระเพาะ ลดด้วยสาหร่ายเกลียวทองเบส
สาหร่ายเกลียวทองคืออะไร?
สาหร่ายเกลียวทองสไปรูลิน่า เป็นสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินขนาดเล็ก มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เป็นอาหารเสริมที่มีคุณค่าและได้ผ่านการทดลองอย่างดีในด้านการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติที่มนุษย์ใช้เป็นอาหารอย่างปลอดภัยมานานนับพันปี
องค์ประกอบของสาหร่ายเกลียวทองสไปรูลิน่าที่เด่นที่สุดคือ ปริมาณโปรตีนกว่า 60% ของน้ำหนักแห้งโดยเฉลี่ย ซึ่งสูงกว่าโปรตีนที่มีในเนื้อวัวหรือไข่ถึง 3 เท่า มีกรดอะมิโนที่จัดเรียงกันอย่างได้สัดส่วนสมดุลถึง 18 ตัว มีวิตามินที่มีคุณค่า เช่น B1, B2,B3, B12, วิตามิน C, วิตามิน E และเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีอยู่ปริมาณ 20 – 25 เท่าของที่มีอยู่ในแครอท เป็นแหล่งของกรดไขมันแกมมาไลโนเลนิค ซึ่งสามารถลดคอเลสเตอรอลได้ถึง 170 เท่า ของกรดไขมันไลโนเลอิคทีมีอยู่ในน้ำมันพืช มีวิตามินและเกลือแร่ที่สามารถซึมซับเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วเป็น 4 – 5 เท่า ของแหล่งที่ได้จากสัตว์ เช่น เนื้อ ไข่ หรือเนยแข็ง
ขณะนี้องค์การอาหารและยาได้จัดสาหร่ายเกลียวทองสไปรูลิน่า เป็นเพียงผักชนิดหนึ่ง เป็นอาหารเหมือนเช่นอาหารที่รับประทานทั่วไป ดังนั้นจึงไม่ควรแอบอ้างสรรพคุณในการรักษาโรค แต่อาหารที่ดีก็เปรียบเสมือนยาวิเศษ สำหรับผู้ป่วยควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ควบคู่ไปกับการใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งสาหร่ายเกลียวทองจะช่วยเสริมและขยายอำนาจการรักษาของยา
นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีสุขภาพดีอยู่แล้ว เพื่อเป็นปราการในการป้องกันโรค หรือผู้ที่มีสภาพต่าง ๆ ดังนี้
1. เหนื่อยง่าย
2. เป็นหวัดง่าย
3. วิงเวียนศรีษะอยู่เสมอ
4. รู้สึกเจ็บถึงกระดูกเมื่อกดเนื้อเบา ๆ
5. หญิงมีครรภ์
6. กินผักสีเขียวหรือผักสีเหลืองไม่เพียงพอ
7. ไม่รับประทานอาหารเช้า
8. กำลังอดอาหารเพื่อลดความอ้วน
9. ชอบหรือไม่ชอบอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งอย่างรุนแรงจนก่อให้เกิดอาการขาดสารอาหาร
10. มีอาการท้องผูกอยู่เป็นประจำอาการผิดปกติในร่างกายที่ทำให้เกิดโรคนั้นมีหลายอย่างและกว่า 90% ของ
อาการผิดปกตินั้นเกิดจากการรับประทานอาหารที่บกพร่องไม่เพียงพอหรือไม่ถูกส่วน
ในกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนียได้ให้สาหร่ายเกลียวทอง ชนิดเม็ดกับคนไข้ที่มีอาการขาดสารอาหารจำนวน 21 คน (คนไข้เหล่านี้มีอาการน้ำหนักลด เนื่องจากเป็นโรคตับอ่อนเรื้อรัง โรคปวดตามข้อ โรคโลหิตจาง เบาหวาน และอื่น ๆ ) พบว่าคนไข้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นและมีสุขภาพดีขึ้น
โรงพยาบาลเด็กเมืองนานจิง ประเทศจีน แพทย์ได้สั่งจ่ายสาหร่ายเกลียวทองให้เด็กอายุระหว่าง 2-6 ขวบ เพื่อเป็นอาหารเสริมร่วมกับต้นอ่อนของข้าวบาร์เลย์อบ เด็กจำนวน 27 คนจาก 30 คน ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากอาการไม่อยากอาหาร, ปัสสาวะรดที่นอน,ท้องร่วงและท้องผูก การทดลองสรุปได้ว่า สาหร่ายเกลียวทองเป็นอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กอย่างยิ่ง
โรคเกี่ยวกับตาได้เพิ่มมากขึ้นในหมู่ผู้สูงอายุ เช่น โรคต้อหิน ต้อกระจกและการสูญเสียเรตินา อันเนื่องจากโรคเบาหวานและโรคสายตาสั้นในนักเรียนนักศึกษา โรคเหล่านี้บางทีเกิดขึ้นเนื่องจากมีโรคชรามาเกี่ยวข้อง เช่น โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน
ดร.ยาชิโตะ ยามาซากิ แพทย์ชาวญี่ปุ่นได้เริ่มใช้ สาหร่ายเกลียวทอง ช่วยในการบำบัดคนไข้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 1976 โดยใช้เสริมกับยาสมัยใหม่ที่ใช้รักษาโรคตาโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคตาที่เกี่ยวข้องกับโรคชรา
ดร.ยาชิโตะ ยามาซากิ ได้รายงานว่า 90% ของคนไข้โรคต้อกระจกจำนวน 480 รายนั้น โรคได้หยุดการแพร่เชื้อหรือสายตาดีขึ้น และคนไข้380 รายนั้น มีความดันโลหิตและอาการของเส้นเลือดในเรตินาตีบดีขึ้น คนไข้ที่แพทย์จ่าย สาหร่ายเกลียวทอง ให้นี้ได้รับคำสั่งให้ดูแล และปฏิบัติตนใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมอาหาร ห้ามดูทีวี และต้องใส่แว่นตาดำ เพื่อตัดแสงอุลตร้าไวโอเล็ต สำหรับคนไข้โรค ต้อกระจกนั้น แพทย์ได้ให้ยาหยอดตา 4 – 5 ครั้งต่อวัน พร้อมให้ยา Tacloin Parotin หรือ Thioia โดยกินหลังอาหารร่วมกับสาหร่ายเกลียวทอง ปริมาณสาหร่ายเกลียวทองที่ให้ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของอาการ ถ้าเป็นน้อยก็ให้มื้อละ 4 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น ถ้าเป็นมากก็ให้มื้อละ 4 เม็ด 3 มื้อ และให้กลับมาตรวจสายตาและตรวจทางห้องปฏิบัติการ 1 – 2 อาทิตย์ต่อครั้ง
สำหรับขนาดการใช้สาหร่ายเกลียวทองกับคนไข้ของ ดร. ยาชิโตะ ยามาซากิ นั้นใช้ 20 – 30 เม็ดต่อวันเป็นมาตรฐานและได้ทดลองใช้ขนาดนี้กับคนไข้หลายรายติดต่อกันเป็นเวลาถึง 600 วัน ไม่ปรากฏมีรายใดมีผลข้างเคียงอันเนื่องมาจากการใช้สาหร่ายเกลียวทอง เป็นเวลานาน ๆ เลย
การใช้สาหร่ายเกลียวทองเป็นประจำเพียงอย่างเดียว (โดยไม่ใช้ยาอื่นร่วมด้วย) ก็จะช่วยให้การติดเชื้อโรคตาบางชนิดยากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง กับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ผิวหนังบาง แพ้ง่าย เด็กนักเรียนที่มักเป็นไข้หวัด มีน้ำมูกไหล บำรุงสายตา และผู้ที่มักเป็นเม็ดที่เยื้อหุ้มตา อย่างไรก็ตามถ้าจะใช้สาหร่ายเกลียวทองให้ได้ผลอย่างเต็มที่ก็จะต้องจัดระบบชีวิตเสียใหม่ให้เหมาะสมไม่กินอาหารจุบจิบระหว่างมื้อหรือกินอาหารที่ไม่ถูกส่วน
ไม่แต่เท่านี้ สาหร่ายเกลียวทองยังให้ผลการรักโรคที่ปัจจุบันยังรักษาไม่ได้ ถ้ากินในปริมาณมากและกินติดต่อกันเป็นประจำ เช่น โรคสมอน (Smon disease) ซึ่งเป็นโรคที่เลือดคั่งในเนื้อเยื่อเรตินา เกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่ง โรคที่คิดว่ารักษาไม่ได้ อย่างเช่น โรคเบเซต เป็นต้น
ในแง่ของการบำบัดโรค การที่มีโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่สูง ย่อมเป็นส่วนเสริมพลังของสาหร่ายเกลียวทอง และจากการศึกษาทดลองเราเชื่อว่าสาหร่ายเกลียวทอง มีอิทธิพลอย่างมากต่อประสิทธิภาพการบำบัดโรคอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อใช้สาหร่ายเกลียวทอง ในการบำบัดจริง ๆ ในโรงพยาบาล ก็พบว่า สาหร่ายเกลียวทอง ไม่เพียงแต่จะเป็นอาหารเสริมเท่านั้น แต่่สามารถใช้บำบัดโรคผู้สูงอายุเรื้อรังได้อีกด้วย
อาการนอนไม่หลับเป็นอาการที่เรามักพบเห็นได้ง่ายทั้งในวัยคนทำงานหรือผู้สูงอายุ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะนอนไม่หลับได้ และเวลานอนไม่หลับจะสร้างความทุกข์ทรมานกับผู้คนนั้นพอสมควรเลยทีเดียว อันที่จริงการนอนไม่หลับเป็นปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งอาจมีต้นเหตุมาจากหลายทางเป็นต้นว่า ต้นเหตุมาจากทางกาย เช่น มีสาเหตุมาจากการปวดข้อ เป็นไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หรือแพ้ยานอนหลับ
ส่วนต้นเหตุทางจิต เช่น มีความวิตกกังวล ครุ่นคิดบางเรื่องที่คิดไม่ตก หรือมีอาการซึมเศร้า หรือจากความเครียด รวมทั้งบางคนอาจมีสาเหตุมาจากการนอนแปลกที่ก็ได้ อีกสาเหตุที่เป็นไปได้คือ การขาด
สารอาหารจำเป็นสำหรับวงจรการนอนหลับ เช่น แอลฟ่า –ทริปโตเฟน หรือ วิตามินบี 12
การปฏิบัติตนเพื่อช่วยป้องกันหรือแก้ไขปัญหาการนอนหลับ อันมีต้นเหตุมาจากทางกายหรือทางจิต ทำได้โดยการรับประทานอาหารให้ตรงเวลา การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควรสวมเสื้อผ้าที่สบาย อย่าดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่กระตุ้นประสาทก่อนถึงเวลานอนใน 6 ชั่วโมง อาบน้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รวมไปถึงการนั่งสมาธิ, สวดมนต์ หรือฟังเพลงเบา ๆ ก่อนนอน
สำหรับสาเหตุจากสารอาหาร เราพบว่า แอลฟ่า – ทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ร่างกายต้องการ แต่ไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ และสารแอลฟ่า – ทริปโตเฟน ชนิดนี้เป็นวัตถุดิบที่สมองใช้สังเคราะห์ ซีโรโทนิน เมลาโทนิน และไนอาซิน อันเป็น สารช่วยให้นอนหลับ ในผู้สูงอายุ จะมีการหลั่งเมลาโทนินลดลงตามธรรมชาติ จึงทำให้นอนหลับยาก จึงมีการใช้เมลาโทนินช่วยในการนอนหลับจากการวิเคราะห์ส่วนประกอบของสาหร่ายเกลียวทอง พบว่า ในสาหร่ายเกลียวทอง 1 กรัม มีทริปโตเฟนอยู่ถึง 13.0 มิลลิกรัมและไนอาซิน 2.67 มิลลิกรัม นับว่ามีปริมาณสูงกว่าอาหารประเภทเนื้อ, ถั่ว, ไข่, ปลา และพืชผักหลายชนิด